หน้าเวบ

วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

โบรโม่... ครั้งเดียวไม่พอ


     ย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน (2011) เรามีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมโบรโม่เป็นครั้งแรก แต่ดูเหมือนว่าจะมีโชคร้ายเล็กๆ เพราะตอนนั้นเป็นช่วงที่โบรโม่อารมณ์ไม่ค่อยดีพ่นเถ้าถ่านและฝุ่นควันออกมามากมาย พร้อมกับส่งเสียงคำรามให้เรากลัวอยู่ตลอดเวลา...


โบรโม่ ปี2011
     เราเลยอดขึ้นไปชื่นชมบนปากปล่อง.... เรานึกบ่นอยู่ในใจว่ามาถึงแล้วกลับไม่ได้ขึ้นไป แต่ส่วนหนึ่งในใจลึกๆ ก็คิดอยู่ว่า บางทีเราอาจได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง เพื่อไปทักทายโบรโม่สาวน้อยเจ้าอารมณ์อย่างใกล้ชิดสนิทสนม ใครจะนึกว่าจะเป็นจริง เราได้กลับมายืนที่นี่อีกครั้ง และช่วงเวลาเดียวกันกับครั้งก่อน (ช่วงวันหยุดแรงงาน)... 

     กลับมาครั้งนี้โบรโม่เปลี่ยนไป สดใสร่าเริง ไม่โมโหคำรามให้หวาดกลัวอีกแล้ว...


โบรโม่สงบนิ่งอยู่หลัง Batok 


5 ทุ่มครึ่งของคืนวันที่ 30 เมษายน 2556...
     เราเดินทางถึงสนามบินสุราบายา ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 นาทีก็ผ่านการตรวจตม.ออกมาเป็นที่เรียบร้อย รีบคว้ากระเป๋าเดินออกมาพร้อมกับมองหาป้ายชื่อตัวเอง แต่ไร้วี่แวว.. ไม่มีคนชูป้ายเหมือนที่นัดแนะไว้ในอีเมลล์ โชคดีที่เราถามเบอร์โทรคนขับเอาไว้ คนขับเราชื่อ Arif (arif.travel35@yahoo.com) เลยตัดสินใจโทรตาม Arif บอกให้รอเดี๋ยวจะวนรถมา... ซักไม่ถึง 2 นาทีก็มีผู้ชายตัวเล็กๆวิ่งมา พร้อมกับทักทายอย่างเป็นมิตร Arif ทักทายพร้อมกับขอโทษที่เค้าไม่ได้ทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้เรา มีอีกคนขับแทน (แต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้) เราเดินไปที่รถ Toyota Inova รถสำหรับพวกเรา 6 คน (ค่ารถ 700,000 IDR ต่อ1 วัน)...

     นั่งรถท่ามกลางความมืดและถนนหนทางที่คับแคบ ผู้คนขับรถแบบแซงซ้ายทีขวาที ทำเอาลุ้นอยู่เป็นระยะ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงหมู่บ้าน Probolinggo จากนั้นนั่งรถเดินทางลัดเลาะไปตามป่าเขาซักครึ่งชั่วโมงก็จะเจอกลุ่มคนขับรถจิ๊ฟรอเชือดอยู่แล้ว เราตกลงกับ Arif มาก่อนหน้านี้แล้วสำหรับทัวร์พระอาทิตย์ขึ้น ราคา 500,000 IDR(จริงๆ ก็คิดว่าแพงไปนิด แต่ด้วยความขี้เกียจต่อราคาเลยยินยอมแต่โดยดี)...
      พอลงจากรถ เราก็รับรู้ได้ถึงความหนาวเย็น (อย่าลืมพกเสื้อกันหนาวไปด้วยนะคะ อากาศข้างบนหนาวจริงจัง แล้วจะหาว่าไม่เตือน) จัดการหยิบกระเป๋า ไฟฉาย เสื้อกันหนาว หมวก กล้อง แล้วออกเดินทาง...



      จากจุดจอดรถจิ๊ฟ เราใช้เวลาเดินทางผ่านหมู่บ้าน ผ่านทะเลทราย ขึ้นเขาชันและแคบใช้เวลาราว 40 นาที เราก็มาถึงจุดชมวิว Penanjakan ใช้เวลาเดินขึ้นบันไดอีก 10 นาทีก็จะเจอจุดชมวิว ที่เต็มไปด้วยคนนับแสน (เวอร์ไปนิด แต่คนเยอะจริงๆ) แอบเสียใจเล็กๆ จุดชมวิวครั้งนี้คนละที่กับคราวก่อน คราวนี้เราเจอรั้วบังวิวเต็มๆ ถ้าจะมาถ่ายรูปก็อาจจะผิดหวังเล็ก แต่ถ้าจะมาเอาบรรยากาศก็ได้อยู่...

      ประมาณเกือบจะตี 5 พระอาทิตย์ก็ค่อยๆ ขึ้น ทุกคนคว้ากล้องและสอดส่องหามุมทีี่พอจะถ่ายรูปได้กันยกใหญ่ บ้างก็ปีนขึ้นรั้ว บ้างก็ปีนขึ้นหลังคาเป็นที่สนุกสนาน ส่วนตัวเรามองหาช่องที่จะลอดไปถ่ายรูปกับเค้าบ้าง หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ในระหว่างที่กำลังถอดใจอยู่นั้น มีชาวจีนเดินออกมา เราก็เลยรีบแทรกตัวเข้าไปแทนที่ ฮ่าๆๆ ในที่สุดฉันก็ได้มุม...ที่ เออออออ มิน่าหล่ะ ชาวจีนคนนั้นเดินออกมา ฮ่าๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ ใช้เวลาไม่นาน เราก็ถอดใจบ้างเดินกลับลงมาเพราะใกล้เวลานัดหมายกับคนขับรถจิ๊ฟ ระหว่างทางลงก็ถ่ายวิวข้างทางไปเรื่อยๆ... วิวระหว่างทางก็สวยงามไม่แพ้โบรโม่เลย 
     



     ลงมาเจอร้านขายอาหารพวกชา กาแฟมากมาย แต่ก็มาสะดุดที่ร้านสุดท้าย เห็นป้ายเขียนว่า Bakso (จำได้ว่าเพื่อนชาวอินโดบอกให้ลองกินบักโส) เลยพุ่งเข้าไปพร้อมกับสั่ง Bakso และโอวัลตินร้อน ณ จุดนั้นฟินสุดๆ อากาศหนาวๆ บักโสร้อน (บักโสก็คือก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อวัวนั่นเอง) พร้อมกับโอวัลตินร้อนๆ จ่ายไปแสนเอ็ด สำหรับไมโล 6 ชามและบักโส 4 แก้ว กินกันแบบเศรษฐีมาก...



บักโส






     จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีกมั้ย! ฟินกับบักโสแล้วเราก็ไปขึ้นรถจิ๊ฟออกเดินทางไปปากปล่องโบรโม่กันต่อ...


     ระหว่างทางขอคุณพี่รถจิ๊ฟแวะข้างทาง ถ่ายเพื่อน ถ่ายวิวทะเลทรายและโบรโม่ สวยสุดๆ ไปเลย...

      ถ่ายรูปกันพอเป็นพิธีก็ขึ้นรถต่อไป เกือบจะถึงจุดจอดรถจิ๊ฟแล้ว มีคนควบม้าไล่ตามมา ฮ่าๆ แหม..รู้ทันตลอดว่าเราขี้เกียจเดิน จริงๆปรึกษากันมาก่อนแล้วว่าจะขี่ม้าไป เพราะขี้เกียจเดินและสนุกดี เลยคิดราคาว่าขอให้ไม่เกินคนละ 100,000 IDR ก็ได้ราคานี้สมใจ พอขึ้นม้าปุ๊บ เค้าก็ยื่นกระดาษที่เขียนชื่อของคนจูงม้าให้ จะได้ไม่หลงขากลับ



     ขี่ม้าไประยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรได้ มีทั้งขึ้นและลงเขาเป็นระยะ สร้างความตื่นเต้นและสนุกสนานครื้นเครงดี :) ม้าของเราบ่นและถอยให้ใจตลอดทาง ฮ่าๆ ตัวฉันก็ไม่ได้หนักขนาดนั้นซักกะหน่อย >.<!








     ในที่สุด... ฝันที่เป็นจริง เราได้เห็นโบรโม่ระยะใกล้มากกกก ตื่นเต้นๆ คิดถึงวันวานตอนโบรโม่คำรามน่ากลัว วันนี้... ฝันที่เป็นจริง เราได้เห็นโบรโม่ระยะใกล้มากกกก ตื่นเต้นๆ คิดถึงวันวานตอนโบรโม่คำรามน่ากลัว วันนี้สงบดีมากกกกก... รีบลงจากม้า พร้อมกับหันไปจำสีเสื้อคนจูงม้า ตอนขากลับจะได้หาเจอง่ายๆ มุ่งหน้าตรงไปที่บันไดทางขึ้นสู่ปากปล่อง (อ่านมาเค้าบอกว่ามี 230 ขั้น แต่จากการเดินคิดว่าไม่น่าถึงนะ)

     ก่อนจะขึ้นก็เจอ Mt.Batok สวยเด่นอยู่ข้างๆ Batok เป็นภูเขาไฟที่สงบแล้วเลยมีหญ้าขึ้นเต็มเลย สวยงามไปอีกแบบเดินไปพักไปตลอดทาง... 



    พาสังขารขึ้นมาถึงปากปล่องจนได้ จริงๆ อยากจะกรีดร้อง แต่อายคนอื่นเค้า แหะๆ เลยได้แต่กรี๊ดในใจเบาๆ โบรโม่เงียบสงบจริงๆ สงบแบบไม่น่าเชื่อว่านี่คือภูเขาไฟที่ยังมีชีวิต และเพิ่งปะทุไปล่าสุดเมื่อปี2011 มองไปปากปล่องมีควันลอยขึ้นมาน้อยมาก จนสามารถมองเห็นปากปล่องได้ชัดเจน
 



     เดินถ่ายรูปชมปากปล่องและวิวข้างล่างซักพัก ก็สังเกตเห็นมีคนจำนวนหนึ่งเดินเล่นรอบปากปล่อง คุณพระ!!! คนเหล่านั้นไม่กลัวตกไปกันเลยหรอ? นึกถามและกลัวอยู่ในใจ เพราะบนปากปล่องจะมีเพียงส่วนเดียวเท่านั้นที่มีราวกั้นและทางเดินกว้างให้คนได้ชื่นชมปากปล่อง ส่วนที่เหลือเป็นทางขอบปากปล่องแคบๆ และไม่มีที่กั้นใดๆ ทั้งสิ้น คือตกไปก็โน่นเลย..แกนโลก แต่ด้วยความอยากเท่ห์ อยากมีรูปขอบปากปล่องบ้าง เลยชวนเพื่อนเดินออกไป พร้อมกับขาที่สั่นเล็กน้อย เดินไปได้แค่ 50 เมตร ไม่ไหวแล้ว.. ขอกลับดีกว่า หัวใจเต้นรัวเกินไปเดินวนไปวนมาชมความงามจนจุใจแล้ว ก็เดินกลับลงมา... เจอคนจูงม้ารออยู่แล้ว







     ขากลับเหมือนพี่เค้ารีบมากกึ่งจูงกึ่งวิ่งกลับมาที่รถจิ๊ฟ พี่รถจิ๊ฟก็รีบบึ่งพาเรามาส่งที่รถ เจอ Arif รออยู่กับลุงคนขับรถของเรา อำลาโบรโม่ด้วยการลืมหมวกไว้เป็นของต่างหน้า :(









เราเชื่อว่าวันนึงเราจะกลับมาเจอเธอใหม่... บ๊ายบาย โบรโม่ <3




ข้อมูลการเดินทาง


1. ติดต่อเช่ารถ บริษัทรถเช่าพร้อมคนขับมีมากมายให้เลือกกัน แต่สำหรับที่นิยมของคนไทยคือ
   - pinkhouse : http://www.pinkhouse-rentcar.8m.com/ แนะนำให้ขอคุณพลาโต้เป็นคนขับรถ (ขับรถดี คุยภาษาอังกฤษเข้าใจง่าย ไม่พูดมาก
   - Tommy : blueisland_024@yahoo.com มีคนไทยแนะนำกันมาก เคยอีเมลล์ไปถามราคา นิสัยค่อยข้างดี ตอบอีเมลล์เร็ว ติดต่อที่พักให้ แต่อาจมีการบวกราคาค่าบริการดีนิดหน่อย
   - Dyana : da_rifi@yahoo.com เป็นเหมือนเอเจนซี่รถเช่า พอเราติดต่อไปว่าต้องการแบบไหนเค้าก็จะหาคนและรถมาให้
   - Arif : arif.travel35@yahoo.com อัธยาศัยดี คุยภาษาอังกฤษเข้าใจง่าย และก็แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเก่งมาก แต่เวลาตอบอีเมลล์จะงงๆหน่อย เพราะชอบตอบอีเมลล์ที่หัวข้อของเมลล์ 

2. เมื่อเช่ารถพร้อมคนขับแล้ว อยากได้อะไรให้ถามคนขับรถได้เลย เดี๋ยวเค้าจัดให้


https://www.facebook.com/Wesetoff

1 ความคิดเห็น: