หน้าเวบ

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ตื่นตี 3 มารอพระอาทิตย์ขึ้นที่บุโรพุทโธ

     

     วันนี้ต้องตื่นแต่เช้า จัดการล้างหน้าแปรงฟัน แล้วตรงดิ่งมาที่ reception ของโรงแรม Manohara ราวตี 4 เพื่อมารวมตัวกัน รับผ้าหนึ่งผืน (ใช้สำหรับนุ่ง) ตั๋ว 1 ใบ ไฟฉาย 1 กระบอก (ทั้งหมดนี้ราคา 230,000 IDR สำหรับคนพักโรงแรม เป็นราคา Sunrise tour) ถ้าไม่ซื้อตั๋วนี้จะไม่สามารถขึ้นไปก่อน 6 โมงเช้าได้ พอได้ตั๋วพวกเราก็รีบเดินไปยังบุโรพุทโธ พอไปถึงประตูยังไม่เปิด เจ้าหน้าที่เพิ่งจะมา สรุปเราเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่ก้าวเข้าบุโรพุทโธของวันนี้ ฮูเร่.... ฮ่าๆ


    เดินขึ้นไปชั้นบนสุด บันไดแอบชันเล็กน้อย ออกอาการหอบนิดหน่อย พอขึ้นไปถึง...ต่างคนต่างเล็งว่าพระอาทิตย์จะขึ้นตรงไหน ตอนนั้นหาทิศไม่เจอ (ไม่ได้พกเข็มทิศ) เพราะมืดมาก มีเพียงแสงอ่อนๆจากสปอร์ตไลท์ที่ส่องบุโรพุทโธทั้งสี่ด้านมาจากแดนไกล



    เวลาผ่านไปไม่นาน เราก็ค้นพบทิศที่พระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว ด้วยการเดาจากจำนวนคนที่ยืนเล็งกันอยู่แถวนั้น และจากการลองถ่ายภาพด้วยกล้องดู เราจะได้ว่าพระอาทิตย์จะขึ้นจากด้านเดียวกับภูเขาไปเมอราปิ

    ขอกล่าวถึงบุโรพุทโธแบบย่อๆ บุโรพุทโธเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายาน (แปลกแต่จริง.. ศาสนาสถานที่สำคัญของพุทธมหายานกลับอยู่ในประเทศที่มีประชากรนับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก) ถ้าไม่นับรวมนครวัด (ศาสนาสถานของพรามหมณ์-ฮินดูและพุทธ) บุโรพุทโธถือได้ว่าเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก!!!! อ่านเพิ่มเติมเอาเองได้ที่ Wikipedia และ Tripdeedee






     ราวตี 4 ครึ่ง....แสงของพระอาทิตย์ค่อยๆ เปล่งประกายมาจากทางด้านหลังของเมอราปิ ผู้คนเริ่มขยับเดินหามุม บ้างก็ถ่ายรูป บ้างก็นั่งมอง บ้างก็นั่งคุย มันเป็นภาพที่ประทับใจ ทั้งวิวตรงหน้า วิวที่เรายืนอยู่ วิวผู้คนรอบข้าง


   เกือบจะตี 5 เหมือนเวลานัดของพระอาทิตย์ หลังจากที่ปล่อยให้แสงเป็นพระเอกอยู่นาน ก็ถึงเวลาออกแสดงของพระอาทิตย์จริงๆ ซะที พระอาทิตย์ลูกเล็กๆ กลมๆ สีแดงจ้า...ใช้เวลาขึ้นจากด้านข้างเมอราปิไม่ถึง 5 นาที พระอาทิตย์ก็กลายเป็นพระอาทิตย์ดวงโตๆ ที่เราไม่สามารถมองและสู้กับพลังของพระอาทิตย์ได้
   



    หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว บริเวณบุโรพุทโธก็สว่างขึ้นมาทันที เราเดินวนรอบๆ พร้อมกับอธิษฐานและเอามือไปสัมผัสกับพระพุทธรูปในสถูป (โดยมีความเชื่อว่าถ้าสามารถยืนมือไปสัมผัสได้จะสมหวังและโชคดี)



    เดินเก็บบรรยากาศ ซึมซับศิลปะที่ไม่คุ้นเคย เราเดินวนรอบเพียงแค่ชั้นบนสุดกับชั้นกลาง ส่วนชั้นล่างสุดนั้นวนได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น



    ภาพบุโรพุทโธรวมที่ยิ่งใหญ่

     เวลาราว 6.30เราก็เดินกลับโรงแรม ระหว่างทางเดินกลับ เจอพ่อค้าขายของที่ระลึกมากมายรุมขายของให้เรา จริงๆ ก็อยากจะหยุดดูของที่ระลึก แต่พ่อค้าน่ากลัวเกินไป ไล่ตามประกบ ประชิด และบอกราคาแพงเวอร์ ดังนั้น เรามีเทคนิคการซื้อของที่ระลึกดังนี้

   ขั้นประเมินสินค้า มองด้วยความรวดเร็วว่ามีสิ่งที่อยากได้หรือไม่ ถ้าไม่มีให้รีบเดิน และอย่าไปสนใจ อย่าถาม อย่ามอง อย่าทำอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้ามี ให้ทำขั้นต่อไป

   ขั้นต่อราคา รีบมองและรีบคิดราคาสินค้านั้นไว้ในใจ เอาราคาที่เราพึงพอใจ อย่าไปคิดว่ามันจะถูกหรือแพงไป เอาตัวเองเข้าว่า แล้วพูดออกไปเลยว่าต้องการราคาเท่านี้ แล้วเดินต่อไปอย่าหยุด ไม่ว่าเค้าจะพูดยังไง ให้ยืนยันราคาเดิม อย่าได้อ่อนไหว และสุดท้ายคุณจะได้สินค้านั้นมาครอบครองในราคาที่คุณพึงพอใจ เมื่อซื้อสินค้าแล้วให้ทำขั้นต่อไป

   ขั้นปิดราคา ขั้นนี้ถือว่าสำคัญมาก ถ้าซื้อสินค้ามาแล้ว ให้เก็บเอาไว้ ใครถามก็ไม่ต้องบอกว่าซื้อมาเท่าไหร่ หรือถ้าไปเจอร้านค้าขายของเหมือนกัน ก็อย่าได้ไปถาม เพราะไม่งั้นอาจมีเจ็บใจ :p
   

    ด้วยเทคนิคดังกล่าว... เราเลยได้หินแกะรูปบุโรพุทโธกลับมาเมืองไทยด้วย ในราคาที่เราพึงพอใจ ดังนั้นจะไม่บอกว่าราคาเท่าไหร่ ให้ไปต่อกันเอาเอง อิอิ ^^

    เสร็จแล้วก็เดินไปกินข้าวที่ coffee shop ของโรงแรม แล้วอาบน้ำแต่งตัว เดินทางกันต่อ



    อำลาบุโรพุทโธด้วยความประทับใจ...

https://www.facebook.com/Wesetoff
    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น